การประท้วงเชาวน์ที่สันติของ 1960: การต่อต้านนโยบายอพาร์ทไheide ของรัฐบาลแอฟริกาใต้ และการเรียกร้องความเสมอภาค

 การประท้วงเชาวน์ที่สันติของ 1960:  การต่อต้านนโยบายอพาร์ทไheide ของรัฐบาลแอฟริกาใต้ และการเรียกร้องความเสมอภาค

หากคุณคิดว่าประวัติศาสตร์เป็นเพียงเรื่องราวโบราณที่น่าเบื่อและไม่มีความหมายในปัจจุบัน คุณคิดผิด! ลองจินตนาการถึงยุค 1960 ที่แอฟริกาใต้ถูกปกครองโดยระบบอพาร์ทไหด์อันโหดร้าย ระบบนี้แบ่งแยกคนผิวดำและผิวขาวอย่างรุนแรง โดยปฏิเสธสิทธิพื้นฐานแก่ประชาชนผิวดำ ในขณะที่ประชาชนผิวขาวได้รับสิทธิพิเศษ

ย้อนกลับไปในปี 1960 ที่เมืองเชาวน์ (Sharpeville) ซึ่งเป็นชุมชนแอฟริกาใต้ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นที่ทำให้โลกตะลึงและเปลี่ยนแปลงทิศทางของการต่อสู้เพื่อความเสมอภาคในแอฟริกาใต้

เหตุการณ์การประท้วงเชาวน์ (Sharpeville Massacre) : ความไม่สงบที่สะเทือนไปทั่วโลก

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1960 คนผิวดำจำนวนมากรวมตัวกันที่สำนักงานตำรวจในเชาวน์เพื่อประท้วงต่อกฎหมายการผ่านแดน (Pass Laws) กฎหมายอันป่าเถื่อนนี้บังคับให้คนผิวดำต้องพกเอกสารแสดงตนอยู่เสมอ และห้ามย้ายถิ่นฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต

การประท้วงครั้งนี้เป็นการเดินขบวนอย่างสงบ โดยไม่มีอาวุธใด ๆ ผู้ประท้วงมุ่งหวังเพียงต้องการแสดงจุดยืนต่อต้านกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม ตำรวจกลับตอบโต้ด้วยความรุนแรงอย่างไม่เหตุผล! พวกเขาใช้ปืนลูกซองยิงใส่ฝูงชนผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธ ซึ่งทำให้ผู้คนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมนี้เรียกว่า “การประท้วงเชาวน์” หรือ “Sharpeville Massacre” กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อสู้เพื่อสิ้นสุดอพาร์ทไหด์ในแอฟริกาใต้

Edwin Mofutsanyana และบทบาทของ ANC ในการต่อต้านอพาร์ทไหด์

Edwin Mofutsanyana เป็นผู้นำที่โดดเด่นของ African National Congress (ANC) ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญที่ต่อสู้กับระบบอพาร์ทไหด์ในแอฟริกาใต้

Mofutsanyana เป็นผู้สนับสนุนการต่อต้านอย่างสันติ

แม้ว่า ANC จะใช้เทคนิคทางการเมืองและการประท้วงอย่างสันติเพื่อเรียกร้องสิทธิเท่าเทียมกัน แต่ Mofutsanyana ก็ยอมรับว่าความรุนแรงอาจเป็นสิ่งจำเป็นในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกอื่น

Mofutsanyana และ ANC ได้นำการประท้วงเชาวน์ไปสู่ระดับสากล การสังหารหมู่นี้สร้างความโกรธแค้นและสงสารทั่วโลก ทำให้เกิดการลงโทษทางเศรษฐกิจจากต่างประเทศ

ผลกระทบของเหตุการณ์ Sharpeville Massacre

การประท้วงเชาวน์มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการต่อสู้เพื่อสิ้นสุดอพาร์ทไหด์:

  • ความตระหนักระดับโลก: เหตุการณ์นี้เปิดเผยความโหดร้ายของระบบอพาร์ทไหด์ให้แก่โลกตะวันตก และกระตุ้นให้เกิดการประณามและลงโทษรัฐบาลแอฟริกาใต้

  • การหันไปสู่ความรุนแรง: หลังจากเหตุการณ์เชาวน์ บางกลุ่มใน ANC เชื่อว่าการต่อสู้ด้วยวิธีทางการเมืองอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป และเริ่มสนับสนุนการต่อสู้ด้วยกำลัง

  • การแบนแอฟริกาใต้: สหประชาชาติและหลายประเทศทั่วโลกประกาศคว่ำบาตรและห้ามการค้ากับแอฟริกาใต้เพื่อกดดันรัฐบาลให้ยกเลิกนโยบายอพาร์ทไหด์

Edwin Mofutsanyana และมรดกของเขา

Edwin Mofutsanyana เป็นตัวอย่างของผู้นำที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและสิทธิพลเมือง แม้ว่าเขาจะถูกคุมขังหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อการต่อสู้เพื่อสิ้นสุดอพาร์ทไหด์

Mofutsanyana เป็นผู้ก่อตั้งสมาพันธ์ Afro-Asian Peoples’ Solidarity Organization และทำงานร่วมกับกลุ่มนักกิจกรรมจากทั่วโลกเพื่อต่อต้านอาณานิคมและความไม่เป็นธรรม

Edwin Mofutsanyana เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 1997 แต่ชื่อเสียงของเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนสู้เพื่อความยุติธรรมและความเสมอภาคในทุกมุมโลก

| บุคคลสำคัญในการต่อสู้กับอพาร์ทไหด์ |

|—|—| | Nelson Mandela | ผู้นำ ANC และประธานาธิบดีแอฟริกาใต้คนแรกหลังจากสิ้นสุดอพาร์ทไหด์ | | Desmond Tutu | อาร์ชบิชอปและนักต่อต้านอพาร์ทไหด์ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ | | Walter Sisulu | ผู้นำ ANC และผู้ถูกคุมขังร่วมกับ Nelson Mandela |

การประท้วงเชาวน์เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์แอฟริกาใต้ การเสียชีวิตของผู้ประท้วงผู้บริสุทธิ์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และช่วยนำไปสู่การสิ้นสุดอพาร์ทได์ในที่สุด